ภาพกิจกรรม สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์
 ภาพกิจกรรม  









เรื่อง >>  6 กันยายน 2564 การติดตามการรับเงินเยียวยา 2,000 บาท ของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดเพชรบูร์

รายละเอียด >>  วันที่ 6 กันยายน 2564 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนินการติดตามการรับเงินเยียวยา 2,000 บาท ของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดเพชรบูร์ สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ ตาม“โครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้แก่ผู้ปกครองนักเรียนทุกคน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับจัดสรรเงินช่วยเหลือจากกระทรวงศึกษาธิการ และได้ดำเนินการจัดจัดสรรเงินให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองของนักเรียนในอัตรา 2,000 บาท ต่อนักเรียน 1 คน ให้โรงเรียนเอกชนในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้ง 55 แห่ง ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยา ต่อไป >>ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการโอนเงินงบประมาณตามโครงการดังกล่าวไปยังหน่วยงานในสังกัดและนอกสังกัด ศธ.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งสายสามัญศึกษาและสายอาชีพ ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ประมาณ 10.8 ล้านคน รวมเป็นเงินประมาณ 21,600 ล้านบาท สำหรับสถานศึกษาทุกแห่ง เมื่อได้รับการจัดสรรเงินตามมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาไปแล้ว ขอให้เร่งดำเนินการโอนเงินหรือจ่ายเงินสดให้ถึงมือผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา อย่างเต็มจำนวนโดยเร็ว โดยไม่มีการหักเงินค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะรัฐบาลต้องการให้เงินนี้เป็นการชดเชยค่าใช้จ่ายในการเรียนที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้ปกครองสามารถนำไปใช้ตามความจำเป็น เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าไฟฟ้า และอื่น ๆ เป็นต้น ส่วนในกรณีของสถานศึกษาหรือนักเรียนที่อาจได้รับเงินเยียวยาล่าช้า เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือเป็นนักเรียนที่ได้มีการโยกย้ายสถานที่เรียนหลังจากการอนุมัติโครงการแล้ว ทำให้เกิดรายชื่อตกหล่น ในส่วนนี้ได้ประสานหน่วยงานต่าง ๆ ให้เร่งติดตามและดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว เพื่อให้เงินลงไปถึงมือผู้ปกครองและนักเรียนครบถ้วนทุกคน >>“นอกจากการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ปกครองและนักเรียนแล้ว ขณะนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการเองก็ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องของการเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับครูและนักเรียนทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการจัดสรรวัคซีนล็อตใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพราะเราเชื่อว่าการเรียนที่ดีที่สุดคือการมาเรียนที่โรงเรียน หรือการเรียนแบบ On Site เพราะนักเรียนจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ได้เจอคุณครู ได้เรียนในห้องเรียนจริง ๆ ซึ่งการที่เด็กมาโรงเรียนถือเป็นการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ที่สุด ในส่วนนี้กระทรวงศึกษาธิการได้ให้ ศบค.ศธ. ติดตามสถานการณ์ของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงทีต่อไป”

 

   อ่าน 531 ครั้ง